สำรวจ INNOVATOR TRIBE ในตัวคุณ

ดูแล้ว 1401 ครั้ง

อย่างที่รู้กันดีกว่า "นวัตกรรม" คือ การใช้ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ที่นําไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อก่อให้เกิดคุณค่าต่อประเทศและประชาชน ส่วน "นวัตกร" คือ ผู้ที่สร้างนวัตกรรมและส่งมอบคุณค่านั้นด้วยรูปแบบธุรกิจหรือกระบวนการทางสังคมที่ยั่งยืน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ INNOVATOR TRIBE : เครือข่ายนวัตกร คิดเคลื่อนนวัตกรรม คือ กลุ่มคนที่มีความนิยมในการใช้ชีวิตและสร้างแนวทางการทํางานในรูปแบบที่แตกต่าง แสวงหาและสรรค์สร้างนวัตกรรมที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความสร้างสรรค์ ที่นําไปสู่การพัฒนาธุรกิจและกระบวนการทางสังคมที่ไร้กรอบจํากัดความสามารถ โดยเป็นแบบทดสอบความเป็นนวัตกรจาก NIA Academy มาฝาก

THINKERING คิดต่างและแสวงหาแนวทางใหม่ในการเปลี่ยนแปลง
.
คุณคือ “นักคิด” ที่เชื่อว่าสิ่งใหม่ต้องเริ่มจากการคิดนอกกรอบเสมอ คุณจึงเป็นคนที่สะสมความรู้รอบตัว และคอยตามข่าวสารอยู่ตลอด
.
คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เน้นเรื่องความคิด ยังไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาจะสร้างความเปลี่ยนแปลงยังไง แต่ขอให้เป็นคนที่มีความสามารถในการที่จะดึงเอาสรรพกำลังทั้งหลายหรือองค์ความรู้มาสร้างเป็นไอเดีย เพื่อที่จะต่อยอดไอเดียนั้นไปสู่สิ่งใหม่ที่จะมาเปลี่ยนโลกและวิถีการใช้ชีวิตของเราไปอย่างสิ้นเชิง คนกลุ่มนี้จะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเยาวชน ผู้ประกอบการ หรือผู้บริหาร ไอเดียใหม่ๆจะเป็น Output ของ Thinkering
.
การเริ่มลงมือของนักคิดจะยากหน่อย หากเพิ่มคุณสมบัติของ TRIBE E (Entrepreneurship) มากขึ้น คุณจะกล้าลงมือทําและสามารถสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้จริงๆ



RESILIENCE ยืดหยุ่น ปรับตัว หาทางออกและโอกาสใหม่ๆ ได้ก่อนใคร
.
คุณคือ “นักพัฒนา” ที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้ตลอดเวลาคุณจึงเป็นคนที่ยืดหยุ่น ปรับตัวเก่ง หาโอกาสได้จากทุกสถานการณ์
.
ลักษณะสำคัญของคนกลุ่มนี้ก็คือต้องมีความอดทนอดกลั้นต่อคนที่คิดต่าง มักจะคิดวิธีการหรือหากระบวนการบางอย่างว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้อุปสรรคสามารถผ่านพ้นไปได้ เพราะนวัตกรรมทำคนเดียวไม่ได้บางครั้งก็จะเกิดคนที่มองต่างมุมออกไปหรือแรงต้านจากทั้งภายในและภายนอก
.
เพราะฉะนั้นต้องมีคนประเภท Resilience ที่จะคิดวิธีให้สามารถทำอะไรร่วมกันได้ สามารถหาวิธีปรับให้ทุกอย่างลงตัวในที่สุด นวัตกรรมควรจะมีเป้าหมายแต่เป้าหมายที่ดีคือเป้าหมายที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
การทำอะไรซ้ำๆ ไม่ใช่ตัวคุณแน่ๆ ดังนั้นหาก เพิ่ม TRIBE B (Bridging) คุณจะพบเพื่อนใหม่ ความรู้ใหม่เพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ไม่รู้จบ

INSIGHT เข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สร้างงานด้วยความเข้าใจและใส่ใจเสมอ
.
คุณคือ “นักสังเกต” ที่จะเริ่มงานจากความเข้าใจรอบด้าน คุณจับ Pain point หรือ Unmet needs ของกลุ่มเป้าหมายได้อยู่หมัด
.
คนกลุ่มนี้ต้องรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะเป็นคนที่มีความสามารถในการนำข้อมูลต่างๆ จากการเก็บรายละเอียด การสังเกตุ การตั้งคำถาม มาสร้างเป็น Insight Information ขึ้นมา แล้วนำข้อมูลนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสามารถนำไปแชร์ต่อได้ เพราะการเข้าถึงองค์ความรู้ และสิ่งต่างๆ อย่างลึกซึ้ง เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง จะทำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
.
การทำความเข้าใจอย่างเดียวอาจจะทำให้คุณเห็นแต่ปัญหาเดิมๆ และติดหล่มข้อมูล หากคุณเพิ่มความกล้าคิดนอกกรอบจาก TRIBE T (Thinkering) อีกหน่อย คุณจะสามารถหาวิธีการเก็บข้อมูลหรือเล่นกับข้อมูล ให้ใหม่และปังกว่าเดิมอีกหลายเท่า
BRIDGING สร้างสะพานเชื่อมงานและผู้คน เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน
.
คุณคือ “นักสร้างเครือข่าย” ที่เชื่อว่าสิ่งใหม่และดี ไม่สามารถสร้างได้จากคนคนเดียว คุณจึงเป็นผู้สร้าง “สะพาน” ให้กับคนหลายๆ กลุ่ม และมีวิธีสร้างงานจากการร่วมมือกับกลุ่มคนเหล่านั้น
.
ต้องทำหน้าที่เหมือนคนสร้างสะพาน ที่จะนำมาเชื่อมกลุ่มคน หน่วยงาน ประชาสังคม ต่างๆ มากมาย แล้วทำให้เกิดระบบนวัตกรรมขึ้นมา ซึ่งในกระบวนการดังกล่าว จะต้องมีการออกแบบแนวคิด และแผนบริหารจัดการทั้งหมด ซึ่งจะเกี่ยวข้องทั้งการเชื่อมโยงคน เทคโนโลยี ทรัพยากร และความหลากหลายไปสู่เป้าหมายที่ทำได้จริง
.
ถ้าหากคุณเชื่อม 2 ฝั่งเข้าหากันเพียงอย่างเดียว คุณก็จะเป็นได้แค่สะพานเชื่อมฝั่งเท่านั้น การเพิ่ม TRIBE I (Insight) ขึ้นอีกหน่อยคุณจะสามารถเป็นผู้ควบคุมเครือข่าย เป็นดั่งวาทยากรในโลกแห่งธุรกิจของคุณ

ENTREPRENEUR มีความเป็นผู้ประกอบการ ลงมือทำเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้ธุรกิจเติบโต
.
คุณคือ “นักสร้าง” ที่ลงมือทำทุกสิ่งที่คุณเชื่อตั้งแต่ศูนย์จนถึงร้อย คุณจึงเป็นเจ้าของที่สามารถทำ และเป็นตัวอย่างได้ในทุกกระบวนการ คุณเติบโตไปพร้อมๆ กันกับธุรกิจของคุณ
.
เพราะทุกอย่างมักจะเริ่มจาก Passion มันคือส่วนประกอบสำคัญและเป็นพลังในการขับเคลื่อนของเหล่า Entrepreneur พวกเขาจะมีความเชื่อ และความทะเยอะทะยานที่ชัดเจน ไม่ค่อยมีข้ออ้างมาขีดจำกัดให้ตัวเอง มีการตัดสินใจที่เด็ดขาด พร้อมที่จะโตขึ้นตลอดเวลา มีเป้าหมายชัดเจน และพร้อมที่จะแบกรับความเสี่ยง ซึ่งนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของการนำไอเดียมาสร้างเป็นนวัตกรรม
.
การลงมือทำของนักสร้างมักจะตั้งเป้าหมาย และยึดมันไว้ จนทำมันสำเร็จ แต่ปัจจุบันเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง คุณอาจต้องการเพิ่ม TRIBE R (Resilience) สร้างเป้าหมายที่ดี ที่ยืดหยุ่น ทำให้คุณไม่ต้องแบกรับ ความเสี่ยงมากเกินไป